รักษ์สุขภาพ - ตอนที่ 7 อนุมูลอิสระ (1)

ธรรมชาติของอะตอม (Atom) ทุกอณู (Particle) จะมีอิเล็กตรอน (Electron) วิ่งอยู่วงนอกสุด โดยที่อิเล็กตรอนนี้จะอยู่กันเป็นคู่ๆ แต่เมื่อมันถูกแยกออกไปตัวหนึ่ง จะกลายเป็นอนุมูลอิสระ (Free radical) ที่อยู่นิ่งไม่ได้ จะต้องคอยก่อปฏิกิริยา (Reaction) ทำลายโมเลกุล (Molecule) ที่อยู่ใกล้

ร่างกายคนเรา ก็มีออกซิเจนจำนวนหนึ่งที่ไร้คู่ เมื่อทำปฏิกิริยากับไขมันของเซลล์จะเกิดภาวะเครียด (Oxidative stress) ซึ่งจะทำให้เยื่อหุ้มเซลล์เปื่อยยุ่ย (Decayed) ส่วน DNA [= Deoxyribonucleic acid ซึ่งเป็นสารพันธุกรรม ถ่ายทอดลักษณะสิ่งมีชีวิตรุ่น ถัดๆ ไป] ของเซลล์ก็จะกระจัดกระจาย (Scatter) จนแก่เร็วและตายไป, เป็นมะเร็ง (Cancer), หรือก่อโรคเรื้อรัง (Chronic)

ส่วนหนึ่งของอนุมูลอิสระ เป็นผลพลอยได้ (By-product) จากระบบการเผาผลาญ (Metabolism) ในเซลล์ปรกติของร่างกายคนเรา ยิ่งมีการเผาผลาญมาก เช่น ในกรณีภาวะเครียด (Stress) ก็ยิ่งมีอนุมูลอิสระเกิดขึ้นมาก อีกส่วนหนึ่งเป็นกรณีที่ร่างกายได้รับจากภายนอก เช่น สารพิษในสิ่งแวดล้อม (Pollution) และสารกัมมันตภาพรังสี (Radioactive)

ผลเสียของอนุมูลอิสระ คือ มันทำลายเซลล์และก่อการอักเสบ (Inflammation) ซึ่งหากร่างกายไม่สามารถต้านฤทธิ์ได้ ก็จะกลายเป็นโรคเรื้อรัง แต่โชคดี ที่ร่างกายคนเรามีโมเลกุล (Molecule) ที่สามารถสลาย (Break up) พลังของพวกอนุมูลอิสระเหล่านี้อยู่แล้ว โดยการออกฤทธิ์ (Effect) สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ซึ่งตัวที่สำคัญที่สุด คือเมลาโทนิน (Melatonin)

ปริมาณ 5% ของเมลาโทนินสร้างขึ้นและปล่อย (Release) เข้ากระแสเลือด (Circulatory) โดยต่อมหนึ่งในสมองเวลากลางคืน หลังจากได้มองเห็นแสงสว่างในเวลากลางวัน อีก 95% สร้างขึ้นในทุกเซลล์ จากการกระตุ้น (Trigger) โดยรังสีใกล้อินฟราเรด (Near infra-red: NIR) ในแสงแดดและแสงสะท้อนจากแดดในเวลากลางวัน แล้วเก็บไว้ใช้ในเซลล์ย่อย (Subcellular)

นอกจากสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายคนเรามีอยู่แล้ว โมเลกุลอาหารในวิตามิน (เช่น C, D, และ E), นานาแร่ธาตุ (เช่น สังกะสี [Zinc] และซีลีเนียม [Selenium]), และสารจากพืช เช่น กลุ่มโพลิฟีนอล (Polyphenol) ที่ให้สีคล้ำหรือม่วงแดง (Magenta) ในผิวผลไม้และพืชผักรวม

งานวิจัยในกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ทำนานถึง 15 ปี พบว่า การกินสารต้านอนุมูลอิสระในรูปยาเม็ด (Tablet) จากอาหารเสริม (Food supplement) ไม่มีผลต่อการพลิกผัน (Reverse) โรคได้แต่อย่างใด ในขณะที่งานวิจัยอีกกลุ่มหนึ่ง ให้คนกินอาหารพืชเป็นหลัก (Plant-based) ได้ผลตรงกันข้าม (Contrary)

พืชเป็นแหล่งอาหารธรรมชาติของวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่สามารถลดหรือพลิกผันโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน (Diabetes), ความดันสูง (Hypertension), และโรคหลอดเลือดหัวใจ (Cardiovascular) แล้วยังลดโอกาสการเป็นมะเร็ง (Cancer) หลายชนิด เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate) และมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colon)

งานวิจัยแสดงถึงการออกฤทธิ์ของสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารพร้อมกันทีละเป็นพันเป็นหมื่นชนิดก็เป็นได้ จากมุมมอง (Viewpoint) ของกลไก (Mechanism) ของการเกิดและต้านอนุมูลอิสระ สรุปได้ดังนี้

แหล่งข้อมูล

  1. สันต์ ใจยอดศิลป์, นพ. (2560). สุขภาพดีด้วยตัวคุณเอง: Good Health by Yourself (eBook). พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ: บริษัท พิมพ์สวย จำกัด.
  2. สันต์ ใจยอดศิลป์, นพ. และ พญ. ดร. พิจิกา วัชราภิชาต (2566). Healthy Life Bible คัมภีร์สุขภาพดี: สุขภาพดีได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง. พิมพ์ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ: บริษัท ฟรีมาย์ พับลิชชิ่ง จำกัด.